ที่ปรึกษา IATF16949

บทนำ

   International Automotive Task Force (IATF) 16949:2016 เป็นข้อกำหนดของระบบบริหารคุณภาพสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมาแทนที่ข้อกำหนดเดิมคือ ISO/TS16949:2009 (3rd edition) ถูกพัฒนาขึ้นโดย ANFIA / Italy , AIAG / USA , FIEV / France , SMMT / UK , VDA / Germany ประกาศเมื่อวันที่ 1 October 2016 เป็นฉบับที่ 1st Edition ซึ่งได้มีการแยกข้อกำหนดเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเดียวจาก IATF ไม่ได้รวม ISO9001 ไว้ในข้อกำหนดเหมือนเดิมจึงทำให้เกิดการใช้ตัวย่อ IATF แทน ISO/TS และได้มีการออกแบบข้อกำหนดโดยยังอ้างอิงไปที่มาตรฐาน ISO9001:2015 ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำเอาความเสี่ยงเข้ามาใช้ในการออกแบบระบบเพื่อป้องกันปัญหา

   เป้าหมายของธุรกิจคือ ผลกำไร และ การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งการดำเนินงานต้องมีกิจกรรมการผลิตสินค้าและการให้บริการ ซึ่งอาจมีความเกี่ยวพันกับปัจจัยทั้งภายในและภายนอกองค์กรตามสภาพแวดล้อมในพื้นที่นั้นๆ

   เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสามารถดำเนินการอย่างมีเสถียรภาพ องค์กรต้องมีการบริหารงานอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในสภาพแวดล้อมจึงจำเป็นต้องมีการกำหนดสิ่งที่ต้องดำเนินงานให้สอดคล้องกับบริษทและความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย
   ปัจจุบันองค์กรระหว่างชาติว่าด้วยการมาตรฐาน (ISO, The International Organization for Standardization) ที่มีสมาชิกเป็นหน่วยงานมาตรฐานระดับชาติ ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกจึงร่วมกันทำงานยกร่างมาตรฐานระหว่างประเทศ( ISO9001:2015) ฉบับนี้ขึ้นมา ผ่านคณะกรรมการวิชาการ (TC) โดยได้มีการประกาศเมื่อวันที่ 15-09-2015

มาตรฐานสากล ISO 9001:2015และ IATF16949  ฉบับนี้ส่งเสริมให้นำเอาการดำเนินงานเชิงกระบวนการมาใช้ในการพัฒนา การดำเนินการ และการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบการจัดการคุณภาพ
   เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าโดยการสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งมีการนำเอาหลักการจัดการคุณภาพ 7 ประการเข้ามาเป็นแนวทางการกำหนดแนวคิดการบริหาร และแนวคิดบนพื้นฐานความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อระบบการจัดการคุณภาพ ซึ่งประเด็นนี้ได้มีการระบุถึงแนวคิดของการคิดบนพื้นฐานความเสี่ยงเอาไว้ในมาตรฐานสากลฉบับที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น การดำเนินการป้องกันเพื่อขจัดข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้น การวิเคราะห์ข้อบกพร่องใดๆ ที่เกิดขึ้นจริง และการดำเนินการเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำที่เหมาะสมกับผลกระทบของการไม่เป็นไปตามข้อกำหนด แต่ไม่ได้เป็นการป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นในมาตรฐานฉบับนี้จึงได้มีการระบุเรื่องความเสี่ยงเข้าในเป็นองค์ประกอบหนึ่งในข้อกำหนด
เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของมาตรฐานสากล องค์กรจำเป็นต้องวางแผนและดำเนินการเพื่อระบุความเสี่ยงและโอกาสการระบุทั้งความเสี่ยงและโอกาสเป็นการสร้างพื้นฐานสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการจัดการคุณภาพ การบรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้น และการป้องกันผลกระทบเชิงลบ

โอกาสที่อาจเกิดขึ้นเป็นผลของสถานการณ์ที่เอื้อต่อการบรรลุผลที่ตั้งใจไว้ ตัวอย่างเช่น สถานการณ์ช่วยให้องค์กรเป็นที่ดึงดูดต่อลูกค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ลดของเสียหรือปรับปรุงผลิตภาพการดำเนินการเพื่อระบุโอกาสอาจรวมถึงการพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องความเสียงเป็นผลกระทบของความไม่แน่นอนและความไม่แน่นอนเช่นนี้อาจส่งผลกระทบทางบวกหรือทางลบก็ได้การเบี่ยงเบนทางบวกที่เกิดจากความเสี่ยงจะก่อให้เกิดโอกาส แต่ไม่ใช่ผลกระทบทางบวกทั้งหมดจากของความเสี่ยงจะก่อให้เกิดโอกาส
  รูปที่ 2 แสดงโครงสร้างของมาตรฐานสากลฉบับนี้ ในวงจร PDCA
  การประยุกต์ใช้ระบบการจัดการคุณภาพเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ขององค์กรที่จะสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิผลโดยรวมและเป็นพื้นฐานสำหรับการริเริ่มการพัฒนาอย่างยิ่งยืน
ประโยชน์ที่องค์กรอาจได้รับจากจัดทำระบบการจัดการคุณภาพตามแนวทางของมาตรฐานสากลคือ:
a) มีความสามารถในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า และเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบต่างๆ
b) เพิ่มโอกาสในการยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า
c) จัดการกับความเสี่ยงและโอกาสที่เกิดเกี่ยวข้องกับบริบทและวัตถุประสงค์
d) ความสามารถแสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องกับข้อกำหนดของระบบการจัดการคุณภาพที่กำหนด

จากแนวคิดการพัฒนาแนวทางการบริหารจะพบว่ายังคงการมุ่งเน้นหลักการ “Process Approach” หรือกระบวนการดำเนินงาน คือ การนำเอาทรัพยากรหรือปัจจัยการผลิตป้องเข้าสู่ระบบการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
  หลักการของ Process Approach นี้เน้นให้มองงาน / กระบวนการ / กิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการที่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ หรือเป็นกระบวนการสนับสนุน กระบวนการ / กิจกรรมต่างๆ นี้ให้มองในรูปของกระบวนการ (Process) ที่แต่ละ Process จะมีทั้งปัจจัยเข้า (Input) และปัจจัยออก หรือผล (Output) ใน ISO9001 :2015 และ IATF16949 : 2016 พบว่าการ บริหารเชิงกระบวนการ เพียงอย่างเดียวยังมีโอกาสที่อาจเกิดความล้มเหลวหรือปัญหาเกิดขึ้นจึงได้มีการนำเอาหลักการประเมินความเสี่ยงเข้ามาเป็นข้อมูลป้อนเข้าสำหรับการออกแบบขั้นตอนการปฏิบัติงานในแต่ละกระบวนการ

โดยมีแนวคิดทำให้เกิดการวางแผนที่มุ่งเน้นการป้องกันไว้ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซึ่งใน ฉบับก่อนหน้านี้ การป้องกัน ได้มีการระบุในข้อกำหนดเฉพาะ 8.5.3 ซึ่งองค์กรอาจไม่ได้มีการประยุกต์ใช้อย่างถูกต้อง

 

Total Page Visits: 1147 - Today Page Visits: 1